สุภาษิต หมายถึง คำกล่าวที่มีคติควรฟัง มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอน เตือนสติให้ได้คิด แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ
- เมื่ออ่าน หรือ ฟังแล้วสามารถเข้าใจเนื้อความได้ทันที โดยไม่ต้องแปลความหมาย ตีความหมายเช่น ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง
- เมื่ออ่าน หรือ ฟังแล้ว ไม่สามารถเข้าใจเนื้อความนั้นในทันที ต้องนึกตรึกตรอง ต้องแปลความ ตีความหมายเสียก่อนจึงจะทราบเนื้อแท้ของคำเหล่านั้น เช่น ผีบ้านไม่ดีผีป่าก็พลอย
สำนวน หมายถึง โวหาร ทำนองพูด ถ้อยคำที่เรียบเรียง ถ้อยคำที่ไม่ถูกไวยากรณ์แต่รับใช้เป็นภาษาที่ถูกต้อง การแสดงถ้อยคำออกมาเป็นข้อความพิเศษเฉพาะภาษาหนึ่ง ๆ
สํานวนไทย จะมีความหมายโดยนัย เป็นลักษณะความหมายเชิงอุปมาเปรียบเทียบ จะไม่แปลความหมายตรงตามตัวอักษร จึงฟังแล้วมักจะ ไม่ได้ความหมายของตัวมันเอง ต้องนำไปประกอบกับบุคคล กับเรื่อง หรือเหตุการณ์จึงจะได้ความหมายเป็น คติ เตือนใจเช่นเดียวกับคำที่เป็นสุภาษิต
คำพังเพย หมายถึง ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นมา แฝงคติเตือนใจหรือ ข้อคิดสะกิดใจให้นำไปปฏิบัติได้ เป็นความหมายกลาง ๆ คือ ไม่เน้นการสั่งสอน และ เนื้อหาของใจความนั้นก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความดี หรือ ความจริงแท้ แน่นอน
ความแตกต่างของ สุภาษิต สำนวน และคำพังเพย
สุภาษิต จะไม่มีการเสียดสีหรือติชมอย่างคำพังเพย เป็นถ้อยคำที่แสดงหลักความจริง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่ว ๆ ไป ภาษิตนี้ยังมีความหมายรวมไปถึง สัจธรรม คำสั่งสอนที่เป็นความจริงอันเที่ยงแท้ทางศาสนาด้วย เช่น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
วัวสันหลังหวะ
คนมีความผิดติดติดตัว จะคอยหวาดระแวง วัวเมื่อมีบาดแผลที่หลังพอเห็นกาบินผ่านมาก็หวาดระแวงว่ากาจะมาจิกแผลบางสำนวนใช้ว่า “วัวสันหลังขาด”
วัวหายแล้วล้อมคอก
ของหายแล้วจึงจะเริ่มป้องกัน เรื่องเกิดขึ้นแล้วจึงคิดแก้ไข ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวไว้บางคนผูกวัวไว้ใต้ถุนบ้าน เมื่อมีคนมาลักขโมยวัวไปแล้วจึงคิดทำคอกให้วัว
สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล
คำพูดหรือกิริยาท่าทางจะบอกถึงการได้รับการอบรมสั่งสอนมา สำเนียง หมายถึง คำพูด ภาษาหรือชาติกำเนิดส่วนกิริยาท่าทางจะบอกให้เห็นถึงการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
การได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นหลายๆคนก็ไม่เท่ากับพบเห็นด้วยตนเอง สิบปากว่า หมายถึงการบอกเล่าหรือพูดโดยกี่คนก็ตาม
จะเข้าใจเท่ากับเราได้เห็นได้ลงมือทำเองย่อมไม่ได้
สีซอให้ควายฟัง
พูดสั่งสอนแนะนำคนโง่มักไม่ได้ผล เสียเวลาเปล่า
ซอเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีเสียงไพเราะแต่หากเราสีซอให้ควายฟังควายย่อมไม่รู้ซึ้งถึงความไพเราะของเสียงซอ
หนูตกถังข้าวสาร
ผู้ที่มีฐานะยากจนได้แต่งงานกับคนร่ำรวยโดยมากจะใช้กับชายยากจนได้แต่งงานกับหญิงร่ำรวยฐานะดีข้าวสารเป็นอาหารที่หนูชอบกิน
เมื่อหนูตกในถังข้าวสาร หนูย่อมอยู่ในความอิ่มหมีพีมันแวดล้อมด้วยอาหารถึงจะขึ้นจากถังไม่ได้ ก็ไม่อดอยากหิวโหย
หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด
เข้าไปขัดขวางกิจกรรมหรือการกระทำของผู้อื่นขณะที่กำลังจะสำเร็จทำให้เขาเสียผลประโยชน์เวลาหามหมูเขาจะเอาหมูห้อยไว้
ตรงกลางไม้ใช้คนอย่างน้อย ๒ คนยกปลายทั้งสองขึ้นการเอาคานเข้ามาสอดตรงกลางไม้จะทำให้การหามหมูมีอุปสรรค ไม่คล่องตัว
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
อดใจไว้ก่อนเพื่อรอสิ่งที่ดีกว่าข้างหน้า ผลไม้บางอย่างมีรสเปรี้ยวเมื่อยังดิบอยู่ เช่น มะม่วง ส้ม มะเฟือง แต่ถ้ารอจนสุก
ผลไม้นั้นจะหวานซึ่งจะได้กินของที่อร่อยกว่า
อ้อยเข้าปากช้าง
สิ่งของหรือประโยชน์ที่ตกอยู่ในมือผู้อื่นแล้วไม่ยอมคืน อ้อยเป็นอาหารที่ช้างชอบฉะนั้นเมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว
ยากที่จะง้างออกได้ซึ่งหมายถึงการเสียผลประโยชน์ โดยความผิดพลาดหรือรู้ไม่เท่าทันไปให้ผู้อื่นแล้ว ย่อมยากที่จะได้คืน
ที่มา : สุภาษิต คำพังเพย สำนวนไทย เรื่อง นลิน คู ภาพ โอม รัชเวทย์ สำนักพิมพ์ แสงแดดเพื่อนรัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น